1. ปฏิบัติตามกฎหมาย  ระเบียบ  ข้อบังคับ  มติ  และคำสั่งของสหกรณ์

2.  เข้าร่วมประชุมทุกครั้งที่สหกรณ์นัดหมาย

3.  ส่งเสริมสนับสนุนกิจการของสหกรณ์  เพื่อให้สหกรณ์เป็นองค์การที่เข้มแข็ง

4. สอดส่องดูแลกิจการของสหกรณ์

5. ร่วมมือกับคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์  พัฒนาสหกรณ์ให้เจริญรุ่งเรืองและมั่นคง

• สมาชิกสมทบรายหนึ่งมีทุนเรือนหุ้นในสหกรณ์ไม่เกิน  1,000,000  บาท 

• สมาชิกสมทบรายหนึ่งมีเงินฝากในสหกรณ์ทุกประเภทรวมกันไม่เกิน  5,000,000  บาท (*เว้นแต่คณะกรรมการดำเนินการเห็นสมควรระงับการซื้อหุ้นหรือฝากเงินกรณีมีความจำเป็นเพื่อกิจการสหกรณ์)

• การส่งเงินค่าหุ้นรายเดือนหรือการชำระหนี้ของสมาชิกสมทบให้กระทำได้โดย

  • หักจากบัญชีเงินฝากที่สมาชิกสมทบแจ้งไว้กับสหกรณ์

  • หักจากเงินได้รายเดือนของสมาชิกสมทบ

  • หักจากเงินได้รายเดือนของสมาชิก  โดยได้รับความยินยอมจากสมาชิกผู้นั้น

• ตาย

•  เป็นคนไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ  หรือวิกลจริต 

• ต้องคำพิพากษาให้ล้มละลาย 

• ลาออกจากสหกรณ์และได้รับอนุญาตแล้ว 

• ขาดคุณสมบัติตามข้อบังคับข้อ  50 

• ถูกให้ออกจากสหกรณ์ 

• กรณีสมาชิกของสหกรณ์ซึ่งเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับสมาชิกสมทบตามข้อ  50(3)  ต้องขาดจากสมาชิกภาพเพราะเหตุใดๆ  ตามที่กำหนดในข้อบังคับ  ให้ถือเป็นเหตุให้สมาชิกสมทบรายนั้นๆ ต้องขาดจากสมาชิกภาพด้วย

• ไม่ชำระค่าธรรมเนียมแรกเข้า

• ไม่ลงลายมือชื่อในทะเบียนสมาชิกสมทบ 

• ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย  ข้อบังคับ  ระเบียบ  มติและคำสั่งของสหกรณ์ 

• แสดงตนเป็นปฏิปักษ์หรือทำให้เสื่อมเสียต่อสหกรณ์หรือขบวนการสหกรณ์  ไม่ว่าโดยประการใดๆ 

• ขาดชำระเงินค่าหุ้นรายเดือนถึง  3  งวดติดต่อกัน  หรือขาดรวมถึง  6  งวด  ทั้งนี้โดยมิได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการดำเนินการ 

• นำเงินกู้ไปใช้ผิดความมุ่งหมายที่ให้กู้นั้น 

• ไม่จัดหาหลักประกัน  ในกรณีที่เงินกู้ที่เกิดความบกพร่องให้สมบูรณ์ภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์กำหนด 

• ค้างส่งเงินงวดชำระหนี้เป็นเวลาถึง  2  เดือนติดต่อกัน  หรือผิดนัดการส่งเงินงวดชำระหนี้นั้นถึง  3 คราวสำหรับเงินกู้รายหนึ่ง ๆ

สมาชิกสมทบอาจทำหนังสือตั้งบุคคลหนึ่งหรือหลายคืนเป็นผู้รับโอนประโยชน์ให้เงินค่าหุ้น  เงินฝาก  หรือเงินอื่นใดจากสหกรณ์เมื่อตนถึงแก่ความตาย  โดยมอบไว้แก่สหกรณ์เป็นหลักฐาน  หนังสือตั้งผู้รับโอนประโยชน์ดังว่านี้ต้องทำตามลักษณะพินัยกรรม

สมาชิกสมทบคนใดมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องชื่อ สัญชาติและที่อยู่ ต้องแจ้งให้สหกรณ์ทราบภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลง